fbpx

DELL PRECISION 5690 16 นิ้ว OLED 4K เวิร์คสเตชั่นแล็ปท็อปขนาด 16 นิ้ว

569001

ถ้าถามว่าต้องการคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลชนิดแล็ปท็อปตัวเดียวในการทำงาน โดยหน้าจอต้องมีขนาดใหญ่ มีพื้นที่ทำงานมากพอ น้ำหนักตัวเครื่องยังพอแบกไปทำงานข้างนอกไหว เชื่อว่าคำตอบที่ได้คงไม่พ้น MacBook Pro 16 นิ้ว เพราะเป็นตัวจบสำหรับสายทำงานด้วยความแรงและความเทพของจอ แต่ถ้าบอกว่าขอเป็นวินโดว์แล็ปท็อปแล้วตัวไหนน่าใช้ที่สุดล่ะ วันนี้ผมมีคำตอบนั่นคือ DELL PRECISION 5690 16 นิ้ว OLED 4K นั่นเอง

มาดูสเปค DELL PRECISION 5690 16 นิ้ว OLED 4K  คร่าว ๆ มีดังนี้

  • CPU : Intel Core Ultra 7 165H 16 Cores
  • GPU : *สำหรับเครื่องที่ได้รับมาไม่มี GPU แยก ซึ่งสามารถเลือกใส่ได้ถึง NVIDIA RTX 5000 หรือ RTX 4090 
  • MEMORY : 32 GB DDR5
  • DISPLAY : 16 นิ้ว 3840×2400 OLED

ในฝั่งวินโดว์แล็ปท็อปเรามักคุ้นเคยกับเวิร์คสเตชั่นแล็ปท็อปขนาด 16 นิ้วจอสเปคธรรมดา เพราะใช้นำไปต่อกับจอมอนิเตอร์ภายนอกเสียมากกว่า ซึ่งแตกต่างจากฝั่ง Apple ที่ให้จอคุณภาพสูงมาใน MacBook ทุกรุ่น และในเมื่อ DELL PRECISION 5690 16 นิ้ว OLED 4K การเลือกใช้ซีพียูคอร์อัลตรารุ่นใหม่ล่าสุดจากอินเทล ทำให้ประสิทธิภาพต่อพลังงานนั้นดีกว่าซีพียูรุ่นเก่า อีกทั้งยังเลือกได้ว่าจะเอา GPU แบบไหน สามารถเพิ่ม memory ได้ รวมถึงการเลือกใช้จอภาพคุณภาพสูงชนิด OLED ความละเอียด 4K จึงทำให้แล็ปท็อปรุ่นนี้เรียกได้ว่าเป็นตัวจบในฝั่งวินโดว์แล็ปท็อปได้เลย

DELL PRECISION 5690 16 นิ้ว OLED 4K ตัวนี้ไม่มี GPU แยก มีแถมพาวเวอร์อะแดปเตอร์ขนาด 130 วัตต์มาให้ในกล่อง ผมลองสังเกตในช่วงที่ทำการใช้งานหนัก ๆ ตัวเครื่องดึงไฟเพียง 90 วัตต์เท่านั้น และผมได้ทดลองใช้พาวเวอร์อะแดปเตอร์ขนาด 140 วัตต์มาต่อดู ตัวเครื่องดึงไฟสูงสุด 100 วัตต์เท่านั้น ถือว่าประหยัดไฟดีทีเดียว เดาว่าถ้าเป็นรุ่นมี GPU แยก จะแถมพาวเวอร์อะแดปเตอร์ขนาดใหญ่กว่านี้มาให้ เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการกระแสไฟของเครื่องนั่นเอง

พูดถึงประสิทธิภาพในการใช้งานกันบ้าง โดยการทดสอบแรกคือ โปรแกรมตัดต่อวิดีโอยอดนิยมอย่าง Davinci Resolve สามารถทำงานได้แม้จะไม่มี GPU แยก ซึ่งแน่นอนว่าถ้ามี GPU แยกก็จะทำงานได้เร็วกว่านี้ โดย เป็นคะแนนจากการใช้งานผ่านพาวเวอร์อะแดปเตอร์

ถ้าหากใช้งานบนแบตเตอรี่คะแนนจะลดลงเหลือเพียงเท่านี้ (การทดสอบปล่อยให้ระบบจัดการพลังงานอัตโนมัติ) ถามว่าทำงานได้ไหม ก็ตอบตรง ๆ ว่าทำงาน FHD พอไหว แต่ 4K ไม่รอดต้องใช้งานผ่านพาวเวอร์อะแดปเตอร์เท่านั้น ซึ่งจุดนี้คือจุดที่ CPU M ซีรี่ส์ของ Apple ได้เปรียบเพราะประสิทธิภาพเท่ากันไม่ว่าจะทำงานบนแบตเตอรี่หรือทำงานบนพาวเวอร์อะแดปเตอร์

ผมจะไม่เปรียบเทียบประสิทธิภาพการทำงานบนแบตเตอรี่กับการทำงานบนพาวเวอร์อะแดปเตอร์แล้วครับ เพราะประสิทธิภาพต่างกันมาก ดังนั้นเราจะมาวัดประสิทธิภาพในด้านอื่นต่อไป นั่นก็คือเล่นเกมนั่นเอง คงไม่มีใครเถียงว่าเครื่องทำงานเล่นเกมไม่ได้ หรือเครื่องทำงานไม่มีใครเอามาเล่นเกมกัน ซึ่งเกมที่ผมเล่นประจำก็คือ Forza Horizon 5 ถ้าถามผมว่าเล่นเกมได้ไหม สำหรับรุ่นที่ไม่มี GPU แยก ก็ตอบตรง ๆ ว่าเล่นได้ แต่ถ้ามี GPU แยกจะเล่นได้สนุกกว่านี้ อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว *น่าจะพอเดาได้ว่าจุดที่ต้องพิจารณา 1 คือ การเลือกซื้อ DELL PRECISION 5690 16 นิ้ว OLED 4K ควรซื้อรุ่นที่มี GPU แยกจะดีที่สุด หรือถ้าใครซื้อรุ่นนี้มาแล้วหนทางเดียวที่จะทำให้เครื่องเร็วขึ้นได้คือต้องต่อ Thunderbolt eGPU เท่านั้น 

ผมได้ทำการทดสอบกับโปรแกรมมาตรฐานอีกเล็กน้อย สำหรับการใช้งานผ่านพาวเวอร์อะแดปเตอร์ ก็เอาไว้เป็นข้อมูลครับ เผื่อเอาไปเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นได้ 

พูดถึงเรื่องประสิทธิภาพ การทำงานไปเยอะแล้วคราวนี้ เราจะมาพิพิจารณาในเรื่องของจอภาพ OLED ของ DELL PRECISION 5690 16 นิ้ว OLED 4K กัน โดยจุดที่น่าสนใจอีกจุดหนึ่งคือซอฟต์แวร์ของ DELL สร้างโดยทีม Portrait Displays ชื่อว่า PremierColor ซึ่งช่วยในการจัดการค่าสีตาม Color Space ที่เราต้องการ

ทีนี้เมื่อเลือก Color Space ที่เราต้องการได้แล้ว ก็ถึงขั้นตอนในการวัดค่าสีว่าตรงตามที่ได้เลือกไว้ไหม ซึ่ง PremierColor นั้นแถมซอฟต์แวร์ในการวัด Calibrate สีมาให้เลย โคตรสะดวก โดยเครื่องมือที่ผมมีคือ Calibrite Display Plus HL ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด วางขายมาประมาณ 1 ปีแล้ว แต่ก็เจอปัญหาว่าซอฟต์แวร์ของ DELL ไม่รู้จักฮาร์ดแวร์ตัวนี้ ซึ่งซอฟต์แวร์จะเห็นแค่ฮาร์ดแวร์รุ่นเก่าเท่านั้น (Colorchecker Display คือสินค้าที่ตกรุ่นไปแล้วถูกแทนที่ด้วย Calibrite Display หน้าตาเหมือนกันออกจากโรงงานเดียวกัน) อันนี้ต้องฝากถึง DELL ว่าควรอัพเดทซอฟต์แวร์ตัวนี้ด้วยครับ

เมื่อไม่สามารถ Calibrate ด้วยซอฟต์แวร์ของ DELL ได้เราจึงทำการ Calibrate ด้วยซอฟต์แวร์ของ Calibrite ชื่อ Calibrite Profiler ค่า Delta E ที่ได้คือ 2.1 อยู่ในเกณฑ์ที่ทำงานที่ต้องใช้ความแม่นยำของสีได้แล้ว ซึ่งผมก็อยากรู้จริง ๆ ว่าซอฟต์แวร์ที่แถมมากับ DELL นั้นจะวัดค่าได้ละเอียดขนาดไหน เสียดายที่ซอฟต์แวร์นั้นไม่รองรับเครื่องมือรุ่นใหม่

ในเมื่อไม่สามารถรู้ได้ว่าแต่ละ Color Space ที่เลือกไปนั้นจะมีผลลัพธ์ออกมาถูกต้องในระดับไหน ในตอนนี้จึงทำได้มากสุดแค่ปรับตั้งค่าในบางจุดแล้วทำการวัดกลับด้วยซอฟต์แวร์ DisplayCal เพื่อตรวจสอบ White points เท่านั้น จึงขอแจกสูตรในการปรับค่าการทำงานบน DELL PRECISSION 5690 16 นิ้ว OLED 4K ที่ความสว่างระดับ 120 และ 140 nits บนระบบสีแบบ SDR และ HDR เพื่อให้คนที่ใช้รุ่นนี้และไม่มีเครื่องมือในการวัดค่าสีได้ปรับตามก็จะได้ค่าสีที่ถูกต้องในระดับหนึ่ง ดังนี้ **จุดพิจารณาพิจารณาที่ 2 ในฝั่ง Apple MacBook Pro 16 นิ้ว นั้นก็ไม่สามารถใช้เครื่องมือทั่วไปในการ Calibrate ได้เหมือนกัน สำหรับอุปกรณ์ที่ผมมีทำได้มากสุดก็แค่กำหนดค่าความสว่างและ White points เหมือน ๆ กัน แต่ค่าความสว่าง HDR ของ DELL PRECISSION 5690 16 นิ้ว OLED 4K อยู่ที่ประมาณ 500 nits เท่านั้น ซึ่งเครื่องในระดับนี้อย่างน้อยควรทำให้ได้ในระดับ Apple MacBook Pro 16 นิ้ว นั่นก็คือ 1,600 nits

DELL PRECISION 5690 16 นิ้ว OLED 4K ประสิทธิภาพโดยรวมถือว่าเจ๋งมากแล้ว ผมขออีกนิดเดียว ขอจอ 1,600 nits และปรับปรุงซอฟต์แวร์ PremierColor ให้รองรับอุปกรณ์ในปัจจุบัน เพียงเท่านี้ก็จะพูดได้เต็มปากแล้วว่า DELL PRECISION 5690 16 นิ้ว OLED 4K คือตัวจบสำหรับคนทำงานสายวินโดว์แล็ปท็อป.